นางพิม พระอาจารย์ประสาน วัดเขาช่องกลิ้ง

คำอธิบาย

นางพิมนั่งพญาหมู พระอาจารย์ประสาน สาทโร วัดเขาช่องกลิ้ง จ.กาญจนบุรี
——————————————–
นางพิมหรือนางดื้อมีพุทธคุณโดดเด่นมากในด้านเมตตาเป็นเครื่องรางของขลังครอบจักรวาล พระเกจิยุคก่อนท่ีเป็นต้นตำรับของนางพิมหรือนางดื้อคือหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แรงจิตอธิษฐานนั้นทำให้เกิดความสำเร็จทุกประการ หลวงปู่อั๊บ ท่านจะสักนางพิมหรือนางดื้อไว้ท่ีต้นขา เป็นรูปผู้หญิงเพศแม่ท่ีกำลังตั้งครรภ์ใส่เครื่องทรง มีขาเด็กโผล่ออกมาท่ีหว่างขาของแม่มีอักขระเป็นยันต์ล้อมมีพุทธคุณโดดเด่นในทุกๆด้านเป็นทั้งเมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์ โชคลาภเมตตาค้าขาย แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงทั้งท่ีมองเห็นและมองไม่เห็น เป็นสิริมงคลแก่ผู้ท่ีกราบไหว้บูชา ในสมัยท่ีหลวงปู่อั๊บท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้มอบตำราและถ่ายทอดสรรพเวทย์วิชาต่างๆโดยเฉพาะวิธีการสร้างปลุกเสกนางพิม(นางดื้อ)และอีดำเซนให้กับพระหลานชายของท่านคือพระอาจารย์ประสานหรือพระครูวิจิตรกาญจนาภรณ์ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดช่องกลิ้ง ต.หนองนกแก้ว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ขณะนี้ทางวัดช่องกลิ้งกำลังสร้างอุโบสถ ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงได้มีการจัดสร้างนางพิม(นางดื้อ)นั่งพญาหมูป่าขนาดพกพาโดยจะปลุกเสกเดี่ยวเป็นครั้งแรกในถ้ำปู่ฤาษีศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติโยมและผู้ท่ีชื่นชอบเครื่องรางของขลังได้ร่วมทำบุญมีไว้สักการะบูชา พญาหมูป่านั้นเป็นตัวจ่าฝูง ซึ่งเป็นตำนานมีเคล็ดลับไม่ว่าจะทำการสิ่งใดก็ให้เกิดความสะดวกราบรื่นสำเร็จง่ายๆ ไม่มีอุปสรรคใดๆมาติดขัด วิธีการบูชานางพิม(นางดื้อ) ใช้เหล้าขาวทาท่ีบริเวณตัวนางพิม(นางดื้อ)หรือทาท่ีอักขระ ตั้งนะโม 3 จบ ว่า อุ กะ ปะ สะ หะ นะ พุท และอธิษฐานจิตขอในสิ่งท่ีตัวเองปรารถนา หมั่นทาเหล้าขาวบ่อยๆหรือทาทุกวันยิ่งดี นี่คือคำพูดของหลวงปู่อั๊บพูดไว้ในสมัยท่ีท่านยังมีชีวิตอยู่…การบูชานางพิม(นางดื้อ)นอกจากจะเป็นมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมแล้ว ผู้ท่ีกราบไหว้สักการะบูชาจะทำให้เป็นท่ีรักใคร่ของมิตรสหาย มีบริวารมีอำนาจ เหมือนมีนะหน้าทอง ไปไหนก็มีคนรักใคร่เอ็นดูให้ความอุปถัมภ์ ค้ำชู หมั่นบูชาบ่อยๆเงินทองไม่ขาดมือ มีกินมีใช้ไปตลอด และเป็นการเสริมสร้างอำนาจวาสนาสร้างบารมีไปในตัวของผู้ท่ีสักการะบูชา….
——————————————————
ประวัติพระอาจารย์ประสาน สาทโร
วัดช่องกลิ้ง ต.หนองนกแก้ว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
พระอาจารย์ประสาน สาทโรหรือพระครูวิจิตรกาญจนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดช่องกลิ้ง ต.หนองนกแก้ว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี (เจ้าคณะตำบลหนองนกแก้ว) เดิมพื้นเพท่านเป็นชาวจังหวัดนครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 16​ กุมภาพันธ์ 2511 ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง บึกบึน ผิวคล้ำ ร่าเริง มีปฏิภาณไหวพริบเฉลียวฉลาด มีความจำเป็นเลิศขยันหมั่นเพียรในด้านของการศึกษา และเป็นที่รักของครอบครัว บิดามารดาของ​ท่านเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัดในหลักธรรมพระพุทธศาสนาชอบทำบุญทำทานอยู่เป็นนิจ ทำให้เด็กชายประสาน ได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญกับบิดามารดาอยู่เป็นประจำเป็นเหตุให้ท่านได้ซึมซับรับหลักธรรมพุทธศาสนา ตั้งแต่อายุยังน้อย ท่านจึงมีนิสัยรักการทำบุญ หมั่นสวดมนต์ปฏิบัติธรรมและเป็นบุตรที่มีความกตัญญู อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ท่านสนใจในพระพุทธศาสนาก็เพราะว่าท่านเป็นหลานของพระอธิการเกษม เขมจาโร หรือหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร จ.นครปฐม พระอาจารย์ประสานได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2543 ที่วัดใหม่บำรุงธรรม อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยมีพระครูอภัยธรรมบาลเป็นพระอุปัชฌาย์ได้ศึกษาวิชากรรมฐานกับพระอุปัชฌาย์ที่นั่นหลังจากนั้นท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองไก่เหลือง เป็นเวลา 3 พรรษา ในช่วงที่อยู่ที่วัดหนองไก่เหลืองนั้นหลวงพ่อสมยา ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสได้เมตตาสอนพระธรรมวินัยและสอนการนั่งวิปัสสนากรรมฐานเพิ่มเติม ในช่วงระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็หาเวลาไปศึกษาวิชาอาคมกับหลวงปู่อั๊บอยู่เป็นประจำได้รับการถ่ายทอดไสยเวทย์วิชาหลายแขนงต่างๆมากมายโดยเฉพาะวิชานางพิมสุดยอดแห่งความเมตตา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นตำนานของหลวงปู่อั๊บ พระอาจารย์ประสานท่านได้ศึกษาจนเชี่ยวชาญจนเป็นที่ไว้วางใจของหลวงปู่อั๊บ ทางด้านแพทย์​แผนโบราณท่านก็ได้ไปเรียนกับพ่อใหญ่บุญมีซึ่งเชี่ยวชาญในวิชาสายเขมร ครูบาอาจารย์ที่อยากจะกล่าวถึงอีกองค์หนึ่งท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์ของศิษย์หลวงปู่มั่น ทัตโต วัดโนนเจริญ อ.นาจะหวย จ.อุบลราชธานี ท่านจะศึกษาตำราพระเวทย์เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆเพื่อนำมาช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก เมื่อกล่าวย้อนมาว่าท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เหตุเพราะว่ามีอยู่วันหนึ่งท่านมาเที่ยวที่วัดช่องกลิ้งและมีความรู้สึกผูกพันเหมือนกับว่าในอดีต​ชาติท่านเคยอยู่ที่นี่ เมื่อได้มาเห็นต้นนางพญางิ้วดำและได้เข้าไปกราบพระในถ้ำปู่ฤาษีศักดิ์สิทธิ์ยิ่งทำให้ท่านอยากอยู่ที่นี่ตลอดไป จึงเข้าไปกราบขออนุญาตพระอธิการสุรินทร์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็มีเมตตาให้มาอยู่สังกัดวัดช่องกลิ้ง (สถานที่แห่งนี้ตำนานเล่าว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นดินแดนของนักพรต ฤาษีต่างๆ) เมื่อพระอาจารย์ประสานมาอยู่ที่วัดนี้ก็เริ่มเจริญขึ้นมาตามลำดับเพราะท่านเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวัด จากวัดที่มีป่ารกกลายมาเป็นวัดที่เริ่มสวยงาม เมื่อพระอธิการสุรินทร์มรณภาพลง ชาวบ้านที่เห็นความขยันหมั่นเพียรความตั้งใจจริงของพระอาจารย์ประสานจึงเห็นสมควรให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ทางคณะสงฆ์จึงมีประกาศแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันนี้วัดก็มีความเจริญขึ้นมาตามลำดับ​​​​​